วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

สมบัติวัสดุในชีวิตประจำวัน

           ความแข็ง  
                  หมายถึง  ความทนทานต่อการตัด และการขูดขีดของวัสดุ วัสดุที่มีความแข็งมาก 
     จะสามารถทนทานต่อการขีดข่วนได้มาก และเมื่อถูกขีดข่วนจะไม่เกิด  รอยบนวัสดุชนิดนั้น    
                เราสามารถตรวจสอบสมบัติความแข็งของวัสดุได้ โดยการนำวัสดุมาขูดขีดกัน
     เพื่อหาความทนทานต่อการขีดข่วน  เช่น  นำยางลบและฝาจีบมาขูดขีดกัน
      -  ก้อนยางลบ (ทำยางจากยาง) จะเกิดรอยขูด       
      -  ฝาจีบ (ทำจากโลหะ) จะไม่เกิดรอยขูด


      -  สรุปได้ว่า โลหะมีความแข็งมากกว่ายาง
                 วัสดุแต่ละชนิดมีความแข็งไม่เท่ากัน ดังนั้นถ้าเราต้องการให้สิ่งของเครื่องใช้
     ของเราไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย เราต้องเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็ง
     เช่น โลหะ แก้ว  กระเบื้อง 
 ความเหนียว 
          หมายถึง  ลักษณะที่ดึงขาดยาก ไม่หัก ไม่ขาด เมื่อถูกดึง ยึด ทุบ ตี ความเหนียวเป็นสมบัติ
    ของวัสดุบางชนิด ซึ่งทำให้วัสดุชนิดนั้นสามารถนำมาเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างๆ  ได้ตามความต้องการ
    เช่น  ดินเหนียวมีสมบัติด้านความเหนียว จึงนิยมนำมาปั้นเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่  โอ่ง  กระถาง  ก้อนอิฐ

ความยืดหยุ่น
         หมายถึง    วัตถุหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่เมื่อถูกทับหรือถูกแรงอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งจะเปลลียนรูปร่างไปจากเดิม  แต่เมื่อเราปล่อยแรงที่ทับหรือดึงวัตถุต่าง ๆ นั้นแล้ว วัตถุบางอย่างจะไม่สามารถกลับมาอยู่ในรูปเดิมได้ แต่มีวัตถุบางอย่างจะคงกลับมาอยู่ในรูปเดิม การที่วัตถุสิ่งของต่าง ๆ ถูกทับหรือดึงด้วยแรงอย่างใดอย่างหนึ่งจนเปลี่ยนรูปไป แต่เมื่อปล่อยแรงนั้นแล้ววัตถุนั้นจะยังคงกลับมาในสภาพเช่นเดิม เราเรียกว่า วัตถุนั้นยังมี ความยืดหยุ่น ตัวอย่างวัตถุที่เห็นได้ชัด เช่น ยางวงสปริง 
การนำความร้อน  
              หมายถึง การถ่ายเทพลังงานความร้อนจากอนุภาคหนึ่งสู่อนุภาคหนึ่ง และถ่ายทอดกันไปเรื่อยๆ ภายในเนื้อของวัตถุ  วัสดุที่นำความร้อนได้ดี  จะถ่ายเทพลังงานความร้อนได้เร็ว และมาก เมื่อวัสดุชนิดนั้นได้รับความร้อนที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง จะถ่ายโอนความร้อนไปสู่บริเวณอื่นด้วย 

                  ตัวนำความร้อน  หมายถึง  วัสดุที่นำความร้อนได้ดี ส่วนใหญ่เป็นโลหะ เช่น เหล็ก ทองแดง อะลูมิเนียม เงิน ทองเหลือง เป็นต้น  เราจึงนิยมใช้โลหะเหล่านี้มาใช้ทำภาชนะในการหุงต้มอาหาร เช่น หม้อ กาต้มน้ำ  กระทะ
                ฉนวนความร้อน  หมายถึง  วัสดุที่ไม่นำความร้อนหรือนำความร้อนน้อย  ได้แก่  อโลหะต่างๆ เช่น ผ้า  ไม้  พลาสติก  กระเบื้อง  กระดาษ  ยาง เป็นต้น เราจึงนำอโลหะเหล่านี้มาทำส่วนที่ไม่ต้องการให้มีความร้อน เช่น ทำด้ามตะหลิว  ทำหูหม้อ 


การนำไฟฟ้า 
           หมายถึง  สมบัติในการยอมให้ประจุไฟฟ้าผ่านได้ วัสดุบางชนิดมีสมบัติในการนำไฟฟ้า คือ  ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ดี แต่วัสดุบางชนิดไม่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้
วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติการนำไฟฟ้า แตกต่างกัน  2  ประการคือ                   

         1.  วัสดุที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้  เรียกว่า ตัวนำไฟฟ้า ได้แก่  วัสดุประเภทโลหะต่างๆ เช่น ทองแดง เงิน เหล็ก อะลูมิเนียม จึงมีการนำโลหะต่างๆ มาทำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทองแดงนำไฟฟ้าได้ดี จึงนำมาใช้ทำสายไฟฟ้า ไส้หลอดไฟ  เป็นต้น  
              2.  วัสดุที่ไม่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้  เรียกว่า ฉนวนไฟฟ้า ได้แก่  วัสดุที่ไม่ใช่โลหะ เช่น พลาสติก  ไม้  แก้ว  จึงมีการนำวัสดุเหล่านี้มาทำอุปกรณ์ที่ป้องกันไฟฟ้าดูด หรือไฟฟ้ารั่ว  เช่น  พลาสติก นำมาทำที่หุ้มปลั๊กไฟฟ้า  สวิตซ์ไฟฟ้า  เป็นต้น

 ความหนาแน่น  
             หมายถึง  ปริมาณสารที่มีอยู่ใน  1  หน่วยปริมาตร  ความหนาแน่นเป็นสมบัติเกี่ยวกับ
    เนื้อของวัตถุ  วัสดุที่มีเนื้อแน่นจะมีความหนาแน่น
มากกว่าวัสดุที่มีเนื้อโปร่ง  เช่น เนื้อของฟองน้ำ
    จะมีรูพรุน  แต่เนื้อของไม้  อิฐ  นอต และดินเหนียว จะเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีรูพรุนแทรกอยู่

    ถ้านำฟองน้ำ  ไม้  อิฐ  นอต และดินเหนียวไปลอยน้ำ วัตถุที่ลอยน้ำได้คือ  ฟองน้ำ และไม้  
        ส่วนอิฐ  นอต และดินเหนียวจะจมน้ำ  ที่เป็นเช่นนี้เพราะฟองน้ำและไม้  มีเนื้อโปร่ง 
        มีความหนาแน่นน้อย  จึงทำให้น้ำหนักน้อย ทำให้สามารถลอยน้ำได้  ส่วนอิฐ นอต
        และดินเหนียว  มีเนื้อแน่น  จึงมีความหนาแน่นมาก ทำให้มีน้ำหนักมาก 
จึงจมน้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อาหารและสารอาหาร

อาหาร (food)   คือ สิ่งที่เรารับประทานได้โดยปลอดภัยและให้สารอาหารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ในประเทศไทยมักจำแนกเป็น 5 หมู่ หรือ 5 กล...